วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันเฮง-วันซวย เคยเจอแบบนี้บ้างไหม?

วันเฮง-วันซวย เคยเจอแบบนี้บ้างไหม?




ชายคน 1 : "เอ...วันนี้มันวันอะไรทำไมซวยจังวะ"ชายอีกคน ตอบแบบกวนๆ(อาจจะนึกถึงคนที่คุณรู้จักที่มีนิสัยแบบนี้) : "โห...พี่ก็วันจันทร์ไง ทำเป็นประสาทเสื่อมไปได้" แล้วคนแรกก็เลยตอกกลับ: "หนอยไอ้...... กวนซะและ เดี๋ยวปากแดงไม่รู้ตัว คนยิ่งซวยๆอยู่" บทสนทนาทำนองนี้เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยประสบกับตัวเองหรือได้ยินคนอื่นๆบ่นกับคนรอบข้างกันบ่อยๆ บางคนก็เห็นว่าขำดี เอาไปเล่าต่อเป็นที่สนุกสนาน แต่คุณรู้ไหมว่า มีหลายๆอย่างแอบแฝงอยู่ในคำพูดที่คุณได้ยินนั้น ซึ่งถ้าคุณรู้ อาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้เลยทีเดียว ตอนนี้คุณอยากรู้ขึ้นมาบ้างหรือยัง? .......ถ้าอยากงั้นเรามาดูกันว่ามันมีอะไรแฝงอยู่


เคยไหม.......ที่คุณเป็นแบบเดียวกับคนข้างต้น ที่บ่นว่ามันวันซวยอะไรของคุณ แล้วเคยไหม.....ที่รู้สึกว่าความซวยมันไม่หนีไปไหน แต่เปลี่ยนจาก วันซวยเป็น=> หลายวันซวย หรือ ช่วงนี้ ทำไมซวย? คุณรู้ไหมว่าทำไมความซวยมันถึงไม่หายไปซะที? แล้วถ้าจะบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณเอง จะเชื่อไหม? ฮั่นแน่น! เรารู้นะ ตอนที่อ่านถึงตรงนี้คงจะเถียงคอเป็นเอ็นแล้วซิท่า เช่นว่า ก็ดวงมันจะซวยใครจะไปช่วยได้(โทษดวง), ก็ตอนนี้ทำอะไรๆมันก็ไม่มีวันขึ้นหรอก (โทษไปทั่ว) และขาดไม่ได้.........ประโยคยอดฮิต มันเป็นเวรเป็นกรรม (ตัวคนพูดก็ไม่รู้ ว่าเชื่อเรื่องเวรกรรม ชาติ-ภพรึเปล่า? แต่ก็โทษเวรกรรม) และอีกสารพัดสารเพที่คุณจะนึกออก แต่ข้ออ้างต่างๆที่คุณเอามาโต้เถียงนั้น คิดไหมว่าจริงๆแล้วคุณกำลังโทษทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้น ตัวเอง! อ๊ะๆๆ ....... อย่าเพิ่งโกรธ เรากำลังจะอธิบายเดี๋ยวนี้แล้วว่า มันมีวิธีแก้ที่ง่าย...ยยยยย มากๆๆๆๆๆๆอยู่ นั่นก็คือ เริ่มต้นด้วยการยอมรับว่าทุกอย่าง (จริงๆไม่ปัดความรับผิดชอบ หยุดอ้างข้อต่างๆ) คุณเป็นต้นเหตุ คุณเป็นคนเรียกให้ความซวยมาหา


เหตุผลตามกฎของจักรวาล หรือ กฎแรงดึงดูด ก็คือ คุณเป็นตัวดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ผู้คน, เงินทองข้าวของ, เอาเป็นว่าทุกๆอย่างรอบตัวเลย ไม่ว่าจะดีหรือร้าย คุณเรียกมันมาทั้งนั้น แล้วคุณได้ลองสังเกตไหมว่าคุณใช้เวลากับ ความคิดว่าซวยๆๆๆๆๆๆๆ นั้นแค่ไหน? แล้วความรู้สึกแย่ๆที่รู้สึกอยู่ คุณก็ยังตอกย้ำมันลงไปอีก ด้วยการแสดงออกโดยพาลกับคนรอบข้าง ทั้งวาจาและ/หรือ อาจจะมีการกระทำร่วมด้วย คนที่เขารับการกระทำของคุณไม่ได้ ก็โต้ตอบกลับ หรืออาจจะรับไม่ได้ แต่ไปบ่นให้คนอื่นๆฟังแทน ความซวยทั้งหลายก็เลยส่งผ่านกันเป็นทอดๆ และอาจจะกลับมาลงกับตัวคุณเองอีกด้วย (กงกรรมกงเกวียนครับพี่น้อง!) แล้วอย่างนี้จะว่าไม่ดูดความซวยได้ไง? รู้ไหมว่าคุณกำลังดูดความซวย เหมือนติดป้ายนีออนบนทางด่วนไว้ที่ตัว หรือไม่ก็เหมือน แรงดึงดูดของโลกนั่นเลย! เวลาและความรู้สึกที่คุณจมอยู่กับมันเป็นตัวเร่ง และดึงดูด สิ่งนั้นๆเข้ามาหา


แล้วมาลองทำแบบนี้ดูดีไหม? ลองคิดดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนความซวยให้เป็น ความเฮงได้ และทำได้ในเวลาสั้นๆ แถมง่ายแสนง่าย แค่ทำตามกฎแรงดึงดูดเท่านั้นเอง โดยที่เวลาเจอเรื่องซวย แค่อย่าไปสนใจความซวย ให้คิดถึงอะไรดีๆ วิธีง่ายๆอย่างนึง คือการหายใจเข้า- ออกลึกๆ ช้าๆ ยาวๆ ซัก 5-10 ครั้ง หรืออาจจะเปลี่ยนบรรยากาศ หยุด/ออกมาจากสถานกาณ์ที่แย่ๆนั้ัน แล้วหันมาทำอะไรที่คุณชอบ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง ฟังเรื่องตลก หรือนึกถึงคน/สิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข ฯลฯ เพียงแค่จำไว้ว่า เมื่อคุณเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น คุณก็ก้าวออกจากความซวยเข้าไปรับความเฮงแล้ว


ขั้นสุดยอด (Advance step) ในการลบความซวย คือ เมื่อคิดถึงสิ่งที่ทำคุณรู้สึก happy ได้แล้ว ให้อินกับมันแบบสุดๆไปเลย ให้คิดถึงมันอย่างลึกซึ้ง ตอนนี้รู้สึกดียังไง? มากแค่ไหน? และรู้สึกดีแบบไหน อิ่มเอมใจ เป็นสุข ชื่นมื่น ภาคภูมิใจ ฯลฯ คิดถึงมันให้มากๆๆๆเข้าไว้ ใช้เวลากับสิ่งดีๆที่ทำให้คุณรู้สึกดีๆๆ ให้มากๆๆๆๆๆๆๆ คิดๆๆว่าเดี๋ยวเรื่องดีๆยิ่งกว่าจะตามมาเรื่อยๆๆๆๆ แล้วคุณจะพบว่าวันนั้นจะเป็นวันเฮงของคุณ และถ้ายังคิดบวกอยู่หละก็ เรื่องเฮงๆมันจะมาหาคุณเองโดยไม่รู้ตัว และจะมาเรื่อยๆๆ เป็นพหูพจน์ นั่นเลยทีเดียว! อาจจะกลายเป็น หลายๆวันเฮงๆๆ => ช่วงนี้ยิ่งเฮงๆๆๆๆ เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ ขณะที่คนเราคิดจดจ่อกับเรื่องดีๆที่ทำให้เรารู้สึกดี แล้วยังไปคิดถึงเรื่องไม่ดีอีกได้

จากตัวอย่างข้างต้นถ้าคุณยังจำได้ คน 2 คนคุยกันเรื่องความซวย ตอนที่มีคนที่ 2 ตอบกวน (วันจันทร์ไงพี่.........) หากคนแรกลองคิดดูดีๆๆๆ ก่อนที่จะแหว กลับหรือทำอะไรรุนแรงไปกว่านั้น ชายคนแรกก็จะเห็นว่า คนที่2 นั้นมีเจตนาดี อยากช่วยให้เค้าหายเครียด เพราะเห็นบ่นว่าซวย (ฟังคำบ่นทำไมจะไม่รู้เนอะ) มุมมองของเขาก็จะเปลี่ยนไป มองว่าไอ้น้องคนนี้มันน่ารักดีนะ เอาใจใส่ความรู้สึกเรา แค่นี้ชายคนแรกก็จะอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง แล้วความซวยก็จะหาย ควายก็จะไม่มาหาด้วย (ฟิวขาดจนขาดสติ ก็ทำให้เราโง่ได้คับ) ...555555 และถ้าชายคนแรกส่งความรู้สึกดีๆนี้กลับ อีกทั้งยังทำแบบที่เขาได้รับกับคนอื่นๆรอบๆตัว มันก็จะส่งกันเป็นทอดๆ ชีวิตเขาจะแฮปปี้ขนาดไหน? ทีนี้ลองหลับตาลงแล้วนึกดูว่า....คุณเป็นผู้ชายคนนั้น! เป็นไงบ้าง....ต่อไปนี้คุณก็จะเลิกกลัวความซวยได้โดยเด็ดขาดแล้วนะ เอาไปใช้ดู! แล้วคุณจะประหลาดใจที่กฎแรงดึงดูดมันได้ผลจริงจิ้ง.................

RainbowThink positive!!! คิดบวก แล้วคุณจะได้บวกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น